Food Loss vs. Food Waste ขยะอาหารเหมือนกัน แล้วมันต่างกันตรงไหน?
Food Loss vs. Food Waste ขยะอาหารเหมือนกัน แล้วมันต่างกันตรงไหน?
ในขณะที่ประชากรในโลกหลายร้อยล้านคนกำลังเผชิญกับความอดอยาก ในอีกซีกของโลกก็มีอาหารจำนวนมหาศาลถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
.
คำว่า ‘ขยะอาหาร’ ดูเหมือนจะเป็นคำรวมที่เราใช้เรียกปัญหานี้ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงปัญหานี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ นั่นคือ Food Loss และ Food Waste
.
1. Food Loss: ความสูญเสีย "ระหว่างทาง" ก่อนถึงมือผู้บริโภค
นี่คือปัญหาที่เกิดจากอาหารที่สูญเสียไประหว่างห่วงโซ่อุปทานหรือกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวไปจนถึงการขนส่งและการแปรรูป ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเก็บเกี่ยวที่ไม่ได้มาตรฐาน, สภาพอากาศ, ศัตรูพืช,การจัดเก็บไม่ดี ไปจนถึงเรื่องความนิยมของผู้บริโภค อย่างผัก ผลไม้ที่รูปทรงไม่สวยแต่ยังสามารถทานได้ ก็กลับถูกคัดทิ้งกลายเป็นขยะอาหารไปอย่างน่าเสียดาย
.
2. Food Waste: ขยะอาหารที่ "เกิดจากพฤติกรรม" ของพวกเราทุกคน
นี่คือปัญหาที่เกิดจากอาหารที่เน่าเสียหรือถูกทิ้งโดยเจตนา ณ จุดสิ้นสุดของห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก, ร้านอาหาร และที่สำคัญที่สุดคือ ครัวเรือน ของเราทุกคน
.
หลายครั้งอาหารถูกปล่อยไว้ให้หมดอายุอยู่บนชั้น, เน่าคาตู้เย็น จากการซื้อเกินจำเป็นของพวกเราทุกคน
.
แล้ว Food Loss และ Food Waste ที่เกิดขึ้นมันมากแค่ไหนกัน?
.
จากรายงานของ FAO( Food and Agriculture Organization of the United Nations: Home ) ได้บอกไว้ว่าในปี 2024 เราสูญเสียอาหารจากกระบวนการผลิตทั้งหมดถึงราว 1 ใน 3
.
เป็นการสูญเสียที่กระบวนการผลิต (Food Loss) 13.2% และสูญเสียเป็นขยะอาหาร (Food Waste) ถึง 19%
.
ซึ่งอาหารที่ถูกทิ้งมากมายมหาศาลนี้ก็มักจะถูกกำจัดด้วยการฝังกลบ และปล่อยก๊าซมีเทนออกมาในกระบวนการย่อยสลาย จนกลายเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบต่อโลกของเรา
.
ปัญหาขยะอาหารนี้เป็นปัญหาที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและพยายามหาทางออกร่วมกันเพื่อลดปริมาณขยะเหลือทิ้งให้ได้โดยเร็วที่สุด และผู้มีส่วนร่วมที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเราทุกคน ที่สามารถช่วยกัน ซื้ออาหารอย่างพอดี กินให้หมดก่อนจะเสีย เพียงเท่านี้อนาคตที่อาหารถูกทิ้งอย่างไร้ค่าก็จะลดน้อยลง และทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น


